ขั้นตอนการปฏิบัติงาน ปลวก ระบบ POST CONSTRUCTION SYSTEM
ติดต่อสายด่วน ตลอด 24 ชม.
สายด่วน 086-0198283 สำนักงาน 038-197498 ติดต่อตลอด 24 ชม.
กำจัดปลวก มด หนู แมลงสาบ และสัตว์พาหะทุกชนิด
Get rid of termites, ants, rats, cockroaches and all kinds of vectors. CCTV installation services.
☑️ ประสบการณ์ มากกว่า 20 + ปี
☑️ More than 20+ years of experience
☑️ สำรวจหน้างาน **ฟรี** ติดต่อสอบถาม **ฟรี**
☑️ Explore the job site **FREE** Contact for inquiries **FREE**
☑️ กำจัดปลวก มด หนู แมลงสาบ และสัตว์ พาหะ อื่นๆ ราคาถูก
☑️ Get rid of termites, ants, rats, cockroaches and other vector animals with cheap price
☑️ รับประกันคุณภาพในการบริการ
☑️ Guarantee the quality of service
☑️ ลูกค้าเจอปัญหาระหว่างสัญญาเรียกใช้**ฟรี**ค่าใช้จ่าย
☑️ Customers encounter problems during the contract, call ** free ** cost.
☑️ บริษัทฯจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าแก้ปัญหาภายใน 48 ชม.
☑️ The company will send an officer to solve the problem within 48 hours.
☑️ บริษัทมีมาตรฐานการบริการด้วยระบบคุณภาพ ISO 9001:2015
☑️ The company has service standards with ISO 9001:2015 quality system.
หลักการทำงาน
ปลวก ระบบ POST CONSTRUCTION SYSTEM
เจ้าหน้าที่ใช้สว่านไฟฟ้าเจาะพื้นอาคารทั้งภายในและภายนอก ขนาดของจุดที่เจาะประมาณ 1 เซนติเมตร โดยเจาะให้ผ่านคอนกรีตถึงพื้นดิน ตามวงกบประตู ช่องท่อชาร์ป คอบันได เสา และจุดที่พบว่ามีปลวกขึ้น เพื่อป้องกันและทำลายรังปลวกที่อาศัยอยู่ภายใต้อาคาร ดำเนินการอัดสารเคมีชนิดน้ำลงดิน โดยใช้สารเคมีที่ผสมเสร็จในปริมาณ 5-7 ลิตร/จุด โดยใช้เครื่องอัดที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งกำลังแรงดันของเครื่องประมาณ 25-30 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว หลังจากการทำบริการเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการอุดทุกจุดที่เจาะโดยใช้วัสดุที่มีความใกล้เคียงกับสภาพพื้นมากที่สุด
ขั้นตอนการปฏิบัติงานป้องกัน และกำจัดปลวก
จุดที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหา เช่น บริเวณที่มีความชื้นสูง พื้นที่เงียบสงบ ขอบบัว วงกบ ฝ้าเพดาน ช่องท่อชาร์ป รอยแตก เจ้าหน้าที่จะใช้สารเคมีชนิดน้ำ (SPRAYING) และสารเคมีชนิดผง (DUSTING) ในจุดที่พบการเข้าทำลายของปลวก โดยประสิทธิภาพของสารเคมี ทั้งชนิดน้ำ และสารเคมีชนิดผง จะออกฤทธิ์ทำให้ตายในระยะเวลาอันสั้น และด้วยลักษณะทางชีวภาพของปลวกเวลาเดินจะต้องสัมผัสกันเนื่องจากปลวกไม่มีตา จึงทำให้ปลวกสามารถได้รับพิษของสารเคมี ประการหนึ่งปลวกจะมีการทำความสะอาดทางเดินตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อมีปลวกตายลงเนื่องจากสารเคมีดังกล่าวก็จะกัดกินซากของปลวกตัวที่ตาย ซึ่งปลวกตัวที่มากินซากนั้นก็จะตายตาม และอีกประการหนึ่งนั้น สารเคมีที่ติดไปกับตัวปลวกจะทำให้ปลวกที่อยู่ภายในรังได้รับสารเคมีนั้นทำให้ปลวกตายหมดทั้งรังได้ในระยะเวลาไม่นานนัก ในการทำบริการครั้งแรกนั้น ต้องมีการเจาะพื้นจนถึงชั้นดิน (ยกเว้น อาคารสูง เพื่อทำการอัดสารเคมีชนิดน้ำลงดิน ในปริมาณ 5-7 ลิตร/จุด (สารเคมีที่ใช้ในอัตราส่วนที่ผสมแล้ว) ซึ่งจะเน้นเป็นพิเศษ บริเวณวงกบประตู, ช่องท่อชาร์ป, คอบันได, เสาอาคาร, และจุดที่พบว่ามีปลวกขึ้น โดยใช้หัวอัดน้ำยาแรงสูง (SUB-FLOOR HIGH PRESSURE INJECTOR) และเครื่องอัดที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งกำลังแรงดันเครื่องประมาณ 25-30 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว และหากสถานที่นั้นมีสนามหญ้า หรือสวนหย่อม ต้นไม้ จะทำการฉีดพ่นสารเคมีชนิดน้ำเคลือบผิวดิน เพื่อการป้องกันและกำจัดปลวก
ปลวก ระบบ POST CONSTRUCTION SYSTEM
เจ้าหน้าที่ใช้สว่านไฟฟ้าเจาะพื้นอาคารทั้งภายในและภายนอก ขนาดของจุดที่เจาะประมาณ 1 เซนติเมตร โดยเจาะให้ผ่านคอนกรีตถึงพื้นดิน ตามวงกบประตู ช่องท่อชาร์ป คอบันได เสา และจุดที่พบว่ามีปลวกขึ้น เพื่อป้องกันและทำลายรังปลวกที่อาศัยอยู่ภายใต้อาคาร ดำเนินการอัดสารเคมีชนิดน้ำลงดิน โดยใช้สารเคมีที่ผสมเสร็จในปริมาณ5-7 ลิตร/จุด โดยใช้เครื่องอัดที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งกำลังแรงดันของเครื่องประมาณ 25-30 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว หลังจากการทำบริการเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่จะทำการอุดทุกจุดที่เจาะโดยใช้วัสดุที่มีความใกล้เคียงกับสภาพพื้นมากที่สุด
ขั้นตอนการปฏิบัติงานป้องกัน และกำจัดปลวก
จุดที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหา เช่น บริเวณที่มีความชื้นสูง พื้นที่เงียบสงบ ขอบบัว วงกบ ฝ้าเพดาน ช่องท่อชาร์ป รอยแตก เจ้าหน้าที่จะใช้สารเคมีชนิดน้ำ (SPRAYING) และสารเคมีชนิดผง (DUSTING) ในจุดที่พบการเข้าทำลายของปลวก โดยประสิทธิภาพของสารเคมี ทั้งชนิดน้ำ และสารเคมีชนิดผง จะออกฤทธิ์ทำให้ตายในระยะเวลาอันสั้น และด้วยลักษณะทางชีวภาพของปลวกเวลาเดินจะต้องสัมผัสกันเนื่องจากปลวกไม่มีตา จึงทำให้ปลวกสามารถได้รับพิษของสารเคมี ประการหนึ่งปลวกจะมีการทำความสะอาดทางเดินตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อมีปลวกตายลงเนื่องจากสารเคมีดังกล่าวก็จะกัดกินซากของปลวกตัวที่ตาย ซึ่งปลวกตัวที่มากินซากนั้นก็จะตายตาม และอีกประการหนึ่งนั้น สารเคมีที่ติดไปกับตัวปลวกจะทำให้ปลวกที่อยู่ภายในรังได้รับสารเคมีนั้นทำให้ปลวกตายหมดทั้งรังได้ในระยะเวลาไม่นานนัก ในการทำบริการครั้งแรกนั้น ต้องมีการเจาะพื้นจนถึงชั้นดิน (ยกเว้น อาคารสูง เพื่อทำการอัดสารเคมีชนิดน้ำลงดิน ในปริมาณ 5-7 ลิตร/จุด (สารเคมีที่ใช้ในอัตราส่วนที่ผสมแล้ว) ซึ่งจะเน้นเป็นพิเศษ บริเวณวงกบประตู, ช่องท่อชาร์ป, คอบันได, เสาอาคาร, และจุดที่พบว่ามีปลวกขึ้น โดยใช้หัวอัดน้ำยาแรงสูง (SUB-FLOOR HIGH PRESSURE INJECTOR) และเครื่องอัดที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งกำลังแรงดันเครื่องประมาณ 25-30 ปอนด์ ต่อตารางนิ้ว และหากสถานที่นั้นมีสนามหญ้า หรือสวนหย่อม ต้นไม้ จะทำการฉีดพ่นสารเคมีชนิดน้ำเคลือบผิวดิน เพื่อการป้องกันและกำจัดปลวก
หลักการทำงาน
PIPE & SOIL TREATMENT คือ การวางท่อเคมี CHEMICAL PIPE คือ ภายในอาคาร และใช้เครื่องฉีดแรงอัดสูงฉีด พร้อมทั้งพ่นน้ำยาเคลือบผิวดินใต้อาคาร เพื่อทำให้พื้นดินส่วนเป็นพิษเกินกว่าที่ปลวกจะอาศัย หรือ แทรกตัวผ่านขึ้นมาทำลายตัวอาคาร หรือบ้านเรือน โดยคำนึงถึงเมื่อครบอายุการรับประกันประสิทธิภาพของน้ำยาเคมี
- จะสามารถอัดน้ำยาเคมีเข้าไปใต้พื้นอาคาร หัวอัดที่เตรียมไว้โดยรอบอาคาร ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ระบบเจาะพื้นเพื่ออัดน้ำยาลงดิน ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในอนาคต
- ไม่ทำให้พื้นอาคารซึ่งใช้วัสดุอย่างดี เกิดความเสียหาย เนื่องจากการเจาะพื้น
- ไม่ต้องใช้น้ำยาเคมีจำนวนมาก ๆ ผ่านเข้าไปในตัวอาคาร เพื่อความปลอดภัยจากสารเคมี ต่อผู้อาศัยมากที่สุด
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
- เจ้าหน้าที่จะเริ่มดำเนินการหลังจากทางฝ่ายก่อสร้าง ได้ทำการเทคานคอดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าหน้าที่จะทำการวางท่อติดกับแนวคานด้านใน รอบตัวอาคาร ท่อน้ำยาเคมีจะมีวาล์วอัดน้ำยาเคมีไว้รอบอาคารเป็นช่วงๆ สำหรับอัดน้ำยาเคมีเข้าไปใต้พื้นอาคารได้ตลอดอายุบ้าน
- หลังจากวางท่อน้ำยาเคมีเรียบร้อยแล้ว ฝ่ายก่อสร้างสามารถปรับพื้นดินก่อนเทคอนกรีต เจ้าหน้าที่จะทำการอัดน้ำยาภายในตัวบ้านทุกตารางเมตร โดยใช้หัวอัดน้ำยา (High Pressure Injector) ปักลงไปในดินประมาณ 50-100 เซนติเมตร และอัดน้ำยาลงดินตารางเมตรละ 5 ลิตร หลังจากอัดน้ำยาลงดินเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะฉีดพ่นสารเคมีพรมหน้าดินอีก 2 ลิตร ต่อ 1 ตารางเมตร
- หลังจากทำการอัดน้ำยาเคมีปลวกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะเข้าทำการตรวจเช็ค ทุกระยะ 6 เดือนต่อครั้ง ตลอดระยะสัญญา
- กรณีพบปัญหาปลวกขึ้นภายในอาคาร โปรดแจ้งให้ทางห้าง ฯ ทราบ ทางบริษัทฯ จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการแก้ไขปัญหา ภายใน 72 ชั่วโมง (หรือ 3 วัน)
หลักการทำงาน
PIPE & SOIL TREATMENT คือ การวางท่อเคมี CHEMICAL PIPE คือ ภายในอาคาร และใช้เครื่องฉีดแรงอัดสูงฉีด พร้อมทั้งพ่นน้ำยาเคลือบผิวดินใต้อาคาร เพื่อทำให้พื้นดินส่วนเป็นพิษเกินกว่าที่ปลวกจะอาศัย หรือ แทรกตัวผ่านขึ้นมาทำลายตัวอาคาร หรือบ้านเรือน โดยคำนึงถึงเมื่อครบอายุการรับประกันประสิทธิภาพของน้ำยาเคมี
- จะสามารถอัดน้ำยาเคมีเข้าไปใต้พื้นอาคาร หัวอัดที่เตรียมไว้โดยรอบอาคาร ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้ระบบเจาะพื้นเพื่ออัดน้ำยาลงดิน ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในอนาคต
- ไม่ทำให้พื้นอาคารซึ่งใช้วัสดุอย่างดี เกิดความเสียหาย เนื่องจากการเจาะพื้น
- ไม่ต้องใช้น้ำยาเคมีจำนวนมาก ๆ ผ่านเข้าไปในตัวอาคาร เพื่อความปลอดภัยจากสารเคมี ต่อผู้อาศัยมากที่สุด
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
- เจ้าหน้าที่จะเริ่มดำเนินการหลังจากทางฝ่ายก่อสร้าง ได้ทำการเทคานคอดินเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าหน้าที่จะทำการวางท่อติดกับแนวคานด้านใน รอบตัวอาคาร ท่อน้ำยาเคมีจะมีวาล์วอัดน้ำยาเคมีไว้รอบอาคารเป็นช่วง ๆ สำหรับอัดน้ำยาเคมีเข้าไปใต้พื้นอาคารได้ตลอดอายุบ้าน
- หลังจากวางท่อน้ำยาเคมีเรียบร้อยแล้ว ฝ่ายก่อสร้างสามารถปรับพื้นดินก่อนเทคอนกรีต เจ้าหน้าที่จะทำการอัดน้ำยาภายในตัวบ้านทุกตารางเมตร โดยใช้หัวอัดน้ำยา (High Pressure Injector) ปักลงไปในดินประมาณ 50-100 เซนติเมตร และอัดน้ำยาลงดินตารางเมตรละ 5 ลิตร หลังจากอัดน้ำยาลงดินเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะฉีดพ่นสารเคมีพรมหน้าดินอีก 2 ลิตร ต่อ 1 ตารางเมตร
- หลังจากทำการอัดน้ำยาเคมีปลวกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะเข้าทำการตรวจเช็ค ทุกระยะ 6 เดือนต่อครั้ง ตลอดระยะสัญญา
- กรณีพบปัญหาปลวกขึ้นภายในอาคาร โปรดแจ้งให้ทางห้าง ฯ ทราบ ทางบริษัทฯ จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการแก้ไขปัญหา ภายใน 72 ชั่วโมง (หรือ 3 วัน)
หลักการทำงาน
ปลวก ระบบ POST CONSTRUCTION SYSTEM คือ การเจาะพื้นของอาคาร ที่สร้างเสร็จแล้ว เพื่อทำการอัดสารเคมีชนิดน้ำลงดินเป็นการป้องกันปัญหาการเข้าทำลายของปลวกทุกจุดของอาคาร
และบริเวณรอบอาคารใช้สว่านไฟฟ้าเจาะพื้นอาคารทั้งภายในและภายนอก ขนาดของจุดที่เจาะประมาณ 1 เมตร โดยเจาะให้ผ่านคอนกรีตถึงพื้นดิน ขนาดเท่าเหรียญบาทเล็ก ลึกลงผ่านอาคารจนถึงพื้นดินใต้อาคาร 50-70 ซม
ตามวงกบประตู ช่องท่อชาร์ป คอบันได เสาอาคาร หรือจุดที่พบว่ามีปลวกขึ้นภายใน คลังสินค้า บ้านพัก สำนักงาน อื่นๆ เพื่อป้องกันและทำลายรังปลวกที่อาศัยอยู่ภายใต้อาคาร
ดำเนินการอัดสารเคมีชนิดน้ำลงดินตรงจุดที่เจาะ ใช้สารเคมีที่ผสมเสร็จในปริมาณ 5-7 ลิตร/จุด
รัศมีการกระจายของน้ำยาจากจุดศูนย์กลาง 1-2 เมตร ใช้เครื่องอัดที่มีประสิทธิภาพสูง
ซึ่งกำลังแรงดันของเครื่องประมาณ 20-30 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว
หลังจากการทำบริการเสร็จสิ้นแล้ว จะทำการอุดทุกจุดที่เจาะ โดยใช้วัสดุที่มีความใกล้เคียงกับเจ้าหน้าที่สภาพพื้นมากที่สุด
ตรวจเช็คปลวกที่อยู่ภายในอาคาร โดยใช้เคมีผงใส่ตามทางเดินปลวกที่พบอยู่ตามผนังอาคาร บนฝ้าเพ-ดาน
เคมีนี้มีผลในการต่อตัวตายของปลวกภายใน 7-15 วัน
สเปรย์ยาตามขอบบัวล่างภายในอาคาร รอยร้าว รอยต่อของอาคาร เพื่อป้องกันปลวกที่จะขึ้นมาภายในอาคารโดยทั่ว โดยใช้ถังสเปรย์ยาขนาด 8 ลิตร ทำการฉีดพ่น
ขั้นตอนการปฏิบัติงานป้องกัน กำจัดมด / แมลงสาบ
เจ้าหน้าที่จะทำการพ่นสารเคมีชนิดน้ำที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดและป้องกัน โดยคำนึงถึงปัญหาที่แมลงหลบซ่อน เช่น ท่อน้ำทิ้ง ท่อชาร์ป ห้องเก็บของ ห้องครัว ห้องอาหาร ตามซอก ตามมุม รอยแตก รอยร้าว แหล่งอับชื้น ท่อระบายน้ำ กรณี เป็นพื้นที่ ที่ไม่สามารถใช้สารเคมีชนิดน้ำได้จะใช้เหยื่อพิษสำเร็จรูป สำหรับแมลงสาป และมด
หนู การดำเนินการโดยใช้วิธีวางเหยื่อพิษสำเร็จรูป
- เจ้าหน้าที่กำหนดจุดวางเหยื่อบริเวณรอบๆ อาคารโดยใช้สถานีหนูติดตั้งห่างกันไม่เกิน 25 เมตรโดยรอบ
- กำหนดจุดวางเหยื่อทั้งภายในและภายนอกรอบตัวอาคารอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับวางเหยื่อพิษสำเร็จรูป ได้แก่ กล่องไม่ ท่อพีวีซีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3/4 นิ้ว เป็นต้น
- กำหนดปริมาณเหยื่อให้เท่ากันในแต่ละจุด เพื่อความสะดวกในการตรวจผงสอบ เหยื่อพิษสำเร็จรูป จะสลับหมุนเวียนเปลี่ยนชนิดของสารเคมีทั้งกลิ่นและรสที่หนูชอบ เพื่อป้องกันหนูจำในวิธีการกำจัด
การดำเนินการโดยใช้วิธีการวางกรงดักหนูการดำเนินการโดยใช้วิธีวางกระดานกาว
- ตรวจสอบพื้นที่ที่จะวางกรงดักหนูตามความเหมาะสม เช่น บริเวณปากรูหนู หรือตามรอยทางเดินของหนู
- ในกรงจะมีเหยื่อหรืออาหารล่อไว้ทุกจุด
- เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดกรงทุกครั้งที่มีหนูติด
ยุง, แมลงวัน , แมลงบิน
วิธีการอบควัน
การใช้สารเคมีในกลุ่มไพรีทรอยด์ ผสมกับน้ำมันก๊าดสกัดกลิ่น โยใช้กับเครื่องพ่นหมอกควัน ให้ความร้อนเผาไหม้น้ำยาเคมีชนิดน้ำออกมาในรูปลักษณะของ “ควัน” เมื่ออบควันเสร็จเรียบร้อยแล้วทิ้งไว้อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เมื่อพ้นระยะเวลาควรเปิดประตู หน้าต่างให้อากาศถ่ายเท หรือระบายกลิ่นของสารเคมี ไม่สมควรให้บุคคลที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าไปในพื้นที่ ที่ทำบริการจนกว่าจะมีการระบายอากาศให้เรียนร้อยก่อน สภาพพื้นที่เหมาะสำหรับอบควันคือ พื้นที่ภายในอาคาร ท่อระบายน้ำทิ้ง เป็นต้น